สวัสดีครับทุกท่านหลังจากที่หมวดรีวิวลูกพี่ใหญ่ อย่าง Mega ไปแล้ว วันนี้หมวดจะมาพูดถึง รุ่นเล็กอย่าง Autobot Mini Cat Lover ( Limited Edition ! ) ซึ่งตัวนี้จะบอกเล็กสุดก็ คงไม่ใช่ เนื่องจากว่ารุ่นนี้เป็น รุ่นที่เกิดจากการพัฒนาของ Autobot รุ่น Mini ซึ่งดีกว่าเดิมยังไงนั้น หมวดหมีจะรีวิว ให้ชมครับ

ต้องเกริ่นก่อนว่าสำหรับรุ่น Mini นั้นเป็นตัวรุ่นเริ่มต้น ของค่าย Autobot ครับ หลักการง่าย ๆ คือ เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นพื้นฐานคอยวิ่งเก็บขยะ , เส้นผม , เส้นขน ,ฝุ่นตามพื้น และสิ่งอื่น ๆ ที่ไม่ใหญ่มาก เป็นผู้ช่วยคอยทำงานบ้าน ลดภาระและลดแรงกายไปได้เยอะพอสมควร

สำหรับ Mini Cat Lover นั้น มีขนาดตัวเครื่องเท่ากับขนาดรุ่น Mini เดิมคือ เส้นผ่าศูนย์กลาง 27 ซ.ม. , สูงเพียง 7.6 ซ.ม. และน้ำหนักเพียง 1.5 กิโลกรัม เป็นรุ่นเล็กที่มีน้ำหนักเบามาก ทำงานครอบคลุมพื้นที่ถึง 40 ตร.ม. เข้าทำความสะอาดใต้ตู้ ใต้เตียงได้อย่างสบาย ๆ เหมาะกับคอนโด หรือวางไว้ในห้องเป็นอย่างมาก ( ถ้าเปิดร้านตัดผม ใช้ตัวนี้เป็นตัวเริ่มต้นก็ถือว่าแจ่มเลย ) และในเรื่องของดีไซน์นั้นแตกต่างจากรุ่น Mini เดิมมาก ๆ เจ้า Mini Cat Lover ตัวนี้ มาในโทนสีขาวส้ม น่ารัก ๆ เหมือนแมว ( แอบอยากให้มันมีสีดำแซมด้วย จะได้เป็นแมว 3 สี ฮ่า ๆ ) ตัวฝาเปิดปิดกล่องเก็บฝุ่น มาในลายแมว เหมาะกับคนรักแมวสุด ๆ

ฟังก์ชั่น 3 In 1 มาครบ

ถึงแม้จะเป็นรุ่นเล็ก แต่ฟังก์ชั่น 3 in 1 กวาด ดูด ถู มาครบครับ แปรงปัดขาหน้าที่ยาวมาก หมวดเคยลองเอามาเทียบกับ รุ่น Mega สังเกตเห็นเลยว่ายาวกว่านิดนึง

และก่อนที่จะใช้งานจะต้องแช่ในน้ำร้อนก่อนจนกว่าขาแปรงจะคลายตัวนะครับ

สำหรับระบบดูดฝุ่น Mini Cat ใช้ ระบบ Vacania Technology เป็นระบบแบบสูญญากาศ และพิเศษสำหรับ Mini Cat ได้รบการพัฒนาให้เพิ่มแรงดูดถึง 30%!! ซึ่งมีแรงดูดมากถึง 18.7 mmaq ถึงแม้จะเทียบกับรุ่น Mega ซึ่งเป็นรุ่นใหญ่ไม่ได้ แต่จากการใช้งาน สังเกตได้เลยว่า บางอย่างทีี่เจ้าตัว Mini มันดูดไม่ขึ้นเพราะว่า ช่องดูดฝุ่นมันเล็กไปเท่านั้นเอง ( แรงดูดถึง แต่ไม่สามารถเข้ากล่องได้ ) และเพราะเป็นระบบแบบสูญญากาศจึงหมดปัญหาเส้นผมพันติดแปรงปัด แบบรุ่น Mega เวลาทำความสะอาดก็เลยง่ายไปเลยครับ

เปิดช่วงล่างให้ดูกันแบบเต็ม ๆ

ในส่วนของการถูนั้น ต้องบอกก่อนเลยว่า เจ้าตัว Mini Cat นี้ ไม่ได้ใช้ผ้าในการถูนะครับ แต่ใช้ทิชชู่เปียกผืนใหญ่แปะด้านท้ายและลากไปเรื่อย ๆ  แต่ถึงอย่างนั้นก็นับว่าสะอาดอยู่ในระดับหนึ่งครับ ถึงขั้นแม่หมวดบอกไม่ต้องถูซ้ำ! แต่ข้อเสียของมันคงติดที่ไม่ค่อยสะดวกเพราะต้องเปลี่ยนทิชชู่เปียกอยู่เรื่อย ๆ และต้องมีค่าใช้จ่ายของทิชชู่เปียก ประมาณเดือนละกล่องเท่านั้นเอง~

วิธีติดตั้งง่าย ๆ เพียงแค่วางถาดทับทิชชู่เปียก และปลดสลักยึดทั้ง 4 มุมออก

พับส่วนที่เกินเข้าหาตัวถาด และใช้สลักยึดปักลงไปบนมุมเดิม

ในส่วนของกล่องเก็บฝุ่นนั้น อาจจะดูไม่ใหญ่มาก แต่พอใช้จริง ก็เก็บฝุ่นได้เยอะพอสมควรครับ และผ้ากรองก็เป็นผ้าของ 3M ครับ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่า กรองสะอาดแน่นอน ที่สำคัญตัวกรองนี้เป็นตัวช่วยลดปัญหาการแพ้น้ำลายแมวในขนแมวได้เป็นอย่างดี ครับ

รูปเปรียบเทียบกล่องเก็บฝุ่น Mini Cat (ซ้าย) กับกล่องเก็บฝุ่น Mega (ขวา)

ผ้ากรองจาก 3M มีอะไหล่มาให้เปลี่ยนด้วย 1 ชุด

หลักการทำงานด้วยระบบ Motion Patterns
(แรนดอม, วิ่งขยายวง, เลาะห้อง)
หรือภาษาชาวบ้านที่เรียกว่าเดินสุ่ม นั่นแหละครับ หุ่นยนต์รุ่นเล็ก ๆ นั้น ยังไม่มีโปรแกรมการจดจำห้อง หรือแผนที่ในตัวมันเองการเดินจึงเป็ฯการเดินสุ่มแบบหุ่นยนต์ตาบอด แต่ว่าการเดินสุ่มของมัน เป็นการเดินสุ่มอย่างมีหลักการนะครับ หลังจากที่ได้ลองใช้ไปแล้วจะพบว่า ถ้าหากจุดเริ่มต้นวางไว้ที่ใด มันก็จะวนลูบ ไปเรื่อย ๆ กลับมาที่จุดเดิมทุกครั้ง แต่ในแต่ละครั้งจะมีการขยายวงเพิ่ม เพื่อการทำความสะอาดที่ทั่วถึง

ขึ้นพรมและสิ่งกีดขวางที่สูงไม่เกิน 0.5 ซม.
เนื่องจากรุ่นนี้เป็นรุ่นเล็กครับ กำลังขับมีไม่มาก จึงขึ้นได้แต่พรมขนสั้นที่ความหนา ไม่เกิน 0.5 ซม. แต่ในข้อเสียนั้นก็นับว่าเป็นข้อดีอยู่ครับ เพราะว่าเจ้า Mini จะวิ่งชนพรมขนยาวและมองว่ามันเป็นกำแพงที่ไม่สามารถข้ามไปได้ จึงไม่มีปัญหาการที่หุ่นยนต์ติดอยู่บนพรมครับ

เซนเซอร์ป้องกันการตกจากที่สูง 3 ระดับ
เป็นฟังก์ชั่นที่ผมชอบมากครับ เนื่องจากว่า เจ้าตัว Mega ที่มีอยู่เดิมนั้น ป้องกันการตกได้แต่เฉพาะความสูงระดับขั้นบันได แต่พอมาเป็นความสูงระหว่างพื้นห้องที่มีความสูงเพียงแค่ 2-3 ซ.ม. นั้น พี่ใหญ่อย่าง Mega มักจะพยองครับ คิดว่าตัวเองล้อใหญ่ข้ามได้… แต่ขากลับมันกลับมาไม่ได้… ( – -“) อย่างบ้านแม่ของหมวดนั้นเป็นปัญหามากครับ เพราะบ้านถูกต่อเติมแบบไม่ปกติ ทำให้พื้นห้องที่ติดกันไม่เสมอกัน ถ้าเอา Mega มาใช้รับรองได้เลยว่าข้ามไปไม่ข้ามกลับแน่นอน แต่ว่า พอเป็น รุ่น Mini แล้วสามารถปรับระดับป้องกันการตกในระดับที่ต่ำที่สุดได้ 1.5 ซ.ม. หายห่วงเรื่องวิ่งลงชานหน้าบ้าน หรือพื้นที่ต่างระดับเตี้ย ๆ ได้เลยครับ

รูปจากการใช้งานจริง ห้องต่างระดับประมาณ 2 ซ.ม.

แท่นชาร์จแบตแบบตั้ง ประหยัดพื้นที่ได้มาก!

ถึงแม้จะไม่มีระบบกลับแท่นชาร์จเอง แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสักเท่าไหร่ เพราะจากการใช้งานจริง บ่อยครั้งที่จะต้องเอาตัวรุ่นพี่อย่าง Mega เข้าแท่นชาร์จเอง และบางครั้งก็รู้สึกว่าแท่นชาร์จแบบนอนมันเกะกะด้วยซ้ำ! เพราะห้องที่หมวดอยู่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด การวางเครื่องนอนทำให้เสียพื้นที่เป็นอย่างมาก ส่วนตัวจึงชอบแบบแท่นชาร์จตั้งแบบ Mini Cat มากกว่า

สิ่งที่เพิ่มขึ้นจากรุ่น Mini ใน Version Mini Cat Lover ซึ่งพิเศษมาก ๆ นั่นก็คืิอ แบตเตอรี่ลิเธียม!

ซึ่งเดิมทีนั้น รุ่น Mini มักจะมีปัญหาคือ แบตเสื่อมไวมากครับ โดยเฉลี่ย 6-8 เดือนก็เสื่อมแล้ว ที่เสื่อมไวเพราะเหตุผล 2 ข้อคือ 1.แบตเตอรี่เป็นเทคโนโลยีเก่า 2.เปิดใช้งานทุกวันและปล่อยให้วิ่งจนแบตหมด แต่สำหรับ Version Mini Cat Lover เปลี่ยนตัวแบตเป็น แบตลิเธียม ซึ่งจะทำให้แบตนี้มีสภาพอายุการใช้งานยาวนานถึง 1 – 2 ปี ตามแต่ลักษณะการใช้งาน ( ข้อแนะนำก็คืออย่าปล่อยให้มันวิิ่งจนแบตหมด ) ซึ่งด้วยส่วนตัวผมว่าโคตรคุ้ม! เพิ่มเงินขึ้นมาอีกนิดหน่อย แต่หมดปัญหาแบตเสื่อมเร็ว เซฟเงินไปได้เยอะ! แต่สำหรับใครมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ไม่ว่ารุ่นไหนก็สามารถติดต่อกับทาง Autobot Vacuum หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ได้เลยครับ

ข้อดี

• ดูดขน ดูดฝุ่นได้สะอาด เก็บได้เรียบร้อยไม่แพ้ตัวใหญ่
• ระบบช่องดูดแบบสูญญากาศ ทำให้ไม่มีปัญหาเส้นขนหรือเส้นผม พันขนแปรง
• บรรเทาปัญหาการแพ้น้ำลายแมวในขนแมว
• ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แค่กดเปิด แล้วก็ให้วิ่งวนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจหรือจนกว่าแบตจะหมด ( ซึ่งจริง ๆ ไม่ควรปล่อยให้แบตหมดเพราะแบตจะเสื่อมสภาพเร็ว )
• แบตทนทานกว่าเดิมมากกว่ารุ่น Mini เนื่องจากใช้เป็น แบตลิเธียม สามารถทำงานได้นานขึ้น และเบตเสื่อมสภาพช้าลง ( แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานประมาณ 1-2 ปี )

ข้อเสีย

• ยังไม่มีฟังก์ชั่นที่ซับซ้อนเช่น ตั้งเวลาการทำงาน หรือจดจำลักษณะห้อง ซึ่งฟังก์ชั่นเหล่านี้ จะอยู่ในตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุ่นที่สูงกว่า
• เครื่องไม่ได้เน้นที่ฟังก์ชั่นการถู และหากจะใช้ถูบ้านต้องเปลี่ยนทิชชู่เปียกทุกครั้ง

สรุป

Autobot Mini Cat Lover นั้นเหมาะสำหรับ คนที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด และมีพื้นที่ไม่ซับซ้อน ไม่มีพรมขนยาวที่ต้องปีน หรือ ตัวกั้นห้องที่ต้องข้าม และต้องมีคนคอยคุมเก็บเครื่องเนื่องจากยังไม่มีฟังก์ชั่นการทำงานที่ซับซ้อน ตอบโจทย์คนง่าย ๆ เพียงแค่นำไปวางไว้ที่ห้องแล้วก็กดเปิด ให้ Mini Cat เดินวนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจ แรงดูดที่ได้อัพเกรดเพิ่มจากรุ่น Mini ถึง 30 % และที่สำคัญหมดห่วงเรื่องแบตเสื่อมไวเพราะใช้แบตลิเธียม โดยรวมแล้วนับว่าเป็นตัวเริ่มต้นที่ดีสำหรับคนที่อยากจะมีเครื่องดูดุ่นไว้ใช้ซักเครื่อง หรือมีรุ่น Mini แล้วอยากอัพเกรดความสามารถขึ้นมาอีกหน่อย สำหรับรุ่นนี้แล้วนับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างยิ่งครับ 🙂

สำหรับ Autobot Mini Cat Lover ราคาอยู่ที่ 4,200 บาท ( ปรับเปลี่ยนตามโปรโมชั่นซึ่งมีมาบ่อยมากกก )

โดยช่องทางที่สามารถสั่งซื้อเจ้า Autobot Mini Cat Lover ผมแนะนำให้เข้าไปสั่งซื้อได้โดยตรงที่ Autobot Vacuum หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ซึ่งทางเพจนี้เป็นเพจของบริษัทโดยตรงมีโปรโมชั่นมาอยู่เรื่อย ๆ หากใครสนใจสอบถามหรืออยากเห็นตัวจริง สอบถามสาขาที่ใกล้ที่สุดได้จากเพจนี้ หรือ www.autobotvacuum.com ได้เลยครับ

ทิ้งท้ายเช่นเคย สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหญ่ อย่าง Mega Autobot คลิกได้ที่นี่เลยครับ

ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และอย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กันด้วยนะคร้าบบบบ ~