หลายคนคงเคยจำได้กับคลิปวิดีโอ นายทหารยศพลเรือเอก ท่านหนึ่งจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้านักศึกษาจบใหม่ ได้อย่างตราตรึงใจไปทั่วโลก
สิ่งที่นายทหารท่านนี้พูด ไม่ได้พูดถึงการที่เราจะต้องตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ ไปให้สูง แต่เป็นเพียงการเริ่มจากเป้าหมายเล็ก ๆ ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างการ “เก็บที่นอน”
เขาคือ พลเรือเอก วิลเลียม แฮร์รี่ แม็คเรเวน (William H. McRaven)
(ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=pxBQLFLei70 )
(ขออนุญาตลงเป็นคลิปภาษาอังกฤษฉบับเต็ม ในส่วนของฉบับแปลไทยสามารถหาได้จากเฟสบุคทั่วไปครับ )
ในครั้งแรกที่นั่งฟังนั้น โดยส่วนตัวหมวดก็ประทับใจแล้วครับ ด้วยได้รับการฝึกมาเหมือน ๆ กัน จึงเข้าใจบริบทของการเก็บที่นอน ที่พลเรือเอกวิลเลียม ต้องการจะสื่อ มันคือสิ่งแรกที่ต้องทำในทุกเช้าของนักเรียนทหารตำรวจ แต่ไม่เคยมีใครมาขยายความให้ฟังว่าทำไปเพื่ออะไร ได้แต่พร่ำสอนกันว่ามันคือ
“ระเบียบและสิ่งที่ต้องทำ”
ฟังครั้งแรกก็รู้แล้วครับว่านายทหารท่านนี้ “มีของ” ทุกสิ่งที่ท่านพูดล้วนแล้วแต่นำประสบการณ์ที่ได้รับมาผ่านการคิดกลั่นกรอง และเอามาย่อยให้ผู้ฟังได้นำมาใช้ได้โดยง่าย ไม่ใช่นายทหารรุ่นเก่าที่นักเรียนทหารตำรวจชอบพูดติดตลกว่า พี่สมัย…
” สมัยผมเคยทำยังนั้น สมัยผมเคยทำอย่างนี้ ทำแบบนี้แล้วดี เพราะใครๆ เขาก็ทำกันมา”
น้อง ๆ ที่นั่งฟังพี่สมัยเล่าก็ได้แต่ งง ว่าพี่สมัยต้องการสื่ออะไร?
จนกระทั่งวันนี้ผมได้ไปสะดุดกับหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งชื่อว่า “Make your bed”
ผมเดาได้ทันทีเลยว่าคงเป็นหนังสือของพลเรือเอก วิลเลียม ที่ได้เคยพูดไว้อย่างแน่นอน…
ผมพลิกด้านหลังมาเปิดดู ซึ่งก็จริงอย่างที่คิด ชื่อของ พลเรือเอก วิลเลียม แฮร์รี่ แม็คเรเวน โชว์หราอยู่ด้านหลังปก พร้อมกับ ประโยคอันสุดแสนประทับใจ ที่คุ้นหูกันดี
ผมคิดในแว๊บแรกว่าหนังสือเล่มนี้จะเล่าอะไรได้มากมายไปกว่า การเก็บที่นอนกัน? เพียงแค่คำพูดด้านหลังมันก็น่าจะเป็นคำสอนที่เพียงพอต่อการนำไปใช้แล้วไม่ใช่หรือ?
ผมสุ่มเปิดหน้าหนึ่งขึ้นมาอ่าน ก็ต้องพบกับประโยคที่ทำให้ผมต้องตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนี้ในทันที
“เพราะชีวิตมันไม่ยุติธรรมไงล่ะนายแม็ค ยิ่งเรียนรู้ข้อนี้ได้เร็วนายจะยิ่งทำได้ดียิ่งขึ้น “
ประโยคนี้คือคำตอบที่นักเรียนทหาร-ตำรวจ สงสัยกันมาตลอด ว่าการลงโทษอันไร้สาระ และไม่ยุติธรรม ที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนนั้นได้สอนอะไรแก่พวกเขา ?
ยิ่งเปิดอ่านหนังสือเล่มนี้มากเท่าไหร่ ยิ่งพบว่า หนังสือเล่มนี้ไม่ได้สอนเพียงแค่ให้คุณเริ่มทำสิ่งเล็ก ๆ ให้สำเร็จ อย่างการเก็บเตียง แต่ปริศนาธรรมซึ่งเกิดขึ้นจากการฝึกในโรงเรียนทหาร-ตำรวจ ก็ได้ถูกพลเรือเอก วิลเลียม เฉลยหมดแล้ว ! ผ่านการกลั่นกรองประสบการณ์ระหว่างการฝึกหน่วยซีลของเขานั่นเอง
สำหรับผมซึ่งเคยผ่านการฝึกภายในโรงเรียนทหารตำรวจมาแล้วคงบอกได้ว่า
“คุณไม่ต้องมาเสียเวลาเป็นปี ๆ เพื่อที่จะมาฝึกอย่างพวกผมหรอก
หนังสือเล่มนี้ได้สอนสิ่งสำคัญเกือบหมดแล้ว”
เนื้อเรื่องในหนังสือ ดำเนินไปตามประสบการณ์จากการฝึก SEAL ของพลเรือเอกวิลเลียม และประสบการณ์ในชีวิตผสมปนกันไป แบ่งข้อคิดที่จะสอนเป็นบท ๆ
การใช้คำไม่เยิ่นเย้อ อ่านแล้วเข้าใจง่าย ไม่ได้ใช้ศัพท์เฉพาะของทหารด้วยซ้ำ!
เป็นเรื่องเล่าที่คนทั่วไป หยิบมาอ่านแล้วก็สามารถเข้าใจได้ว่าผู้เขียนต้องการสื่อถึงอะไร
เนื้อเรื่องเดินไปอย่างไม่มีติดขัด ผู้แปล แปลได้ไหลลื่นมาก ๆ
อ่านจบแล้วในบางเรื่องผมกับถึงบางอ้อ ว่า
“อ่อ ที่ฝึกกันมา จริง ๆ เขามีเหตุผลแบบนี้นี่เอง”
หนังสือได้อธิบายปริศนาธรรมของการฝึก ได้อย่างมีที่มาที่ไป และ “ถูกย่อย” ออกมาให้อ่านเข้าใจง่าย ผู้อ่านได้รับข้อคิด แบบไม่จำเป็นที่จะต้องไปแปลความหมายอีก
หนังสือเล่มนี้เหมาะกับใคร?
โดยส่วนตัวผมว่าเป็นหนังสือที่สามารถอ่านได้ง่าย เข้าใจง่าย เหมาะกับคนทั่วไป ที่ต้องการอยากจะเปลี่ยนแปลงตนเอง โดยเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ และเริ่มจากมุมมองและทัศนคติของเรา แต่หนังสือเล่มนี้ ไม่ใช่ไลฟ์โค้ชนะ อย่าเข้าใจผิด! ผมมองว่าเป็นหนังสือคำสอนจากนายทหารคนหนึ่ง ว่าเขาได้ใช้ชีวิตอย่างไร และมีหลักแนวคิดอย่างไร ในการตัดสินใจหรือปลุกกระตุ้นการดำเนินชีวิตของเขา หนังสือไม่ได้บอกว่าต้องทำ เพียงแต่อ่านแล้วจะรู้สึกได้เองว่า “ควรทำและควรนำไปใช้”
หนังสือเล่มนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับ ทหาร – ตำรวจ
ในขณะที่เราอยู่ในโรงเรียนทหาร-ตำรวจ เราอาจจะเคยสงสัยว่าเรื่องนั้น เรื่องนี้มันสอนอะไรแก่เรา? ความไร้สาระ ความไม่ยุติธรรม ความกดดันต่าง ๆ หนังสือเล่มนี้ อธิบายได้อย่างชัดเจน ว่าสิ่งที่เราได้ทำไปนั้น มันคือส่วนหนึ่งของการฝึก !
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าการฝึกให้ได้รับแรงกดดันเหล่านี้ เป็นเรื่องที่ดีเสมอไป แต่มันแสดงให้เห็นถึงว่า การฝึกนั้นต้องมีเป้าหมาย ต้องสามารถตอบโจทย์ให้ได้ อย่าปล่อยให้ผู้ได้รับการฝึกคิดนานหรือคิดเอาเองว่าการฝึกนั้นให้อะไรกับตัวเขา
การอ่านหนังสือเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ยิ่งสำหรับผู้ฝึก และผู้ที่กำลังได้รับการฝึกอยู่ มันอาจจะทำให้ทัศนคติ ที่ได้รับการฝึกฝนมา ได้ถูกพัฒนา หรือเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
สำหรับผู้ที่จบไปนานแล้ว หากหลงลืมในบางคำสอน หนังสือเล่มนี้จะย้ำเตือนใจอีกครั้ง ว่าคำสอนที่เราได้รับการซึมซับมาตลอดจากการฝึกในโรงเรียนนั้น เราจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันหรือการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไร
ทั้งนี้ผมขอทิ้งท้ายตามคอนเซปต์ของหนังสือว่า
“ถ้าคุณอยากเปลี่ยนโลก จงเริ่มด้วยการเก็บที่นอน”
…เพราะความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เริ่มจากการทำสิ่งเล็ก ๆ หลายอย่างให้สำเร็จ…
—————————————————————————————————————-
I am regular reader, how are you everybody? This paragraph posted at this site is really good.
ถูกใจถูกใจ