ผมเป็นคนช่างเลือกครับ เมื่อจะเปลี่ยนกระเป๋าซักครั้งก็ต้องการใบที่มีคุณภาพที่ดีและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะไม่ชอบเปลี่ยนของใช้บ่อย ๆ จึงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เชื่อไหมครับว่าผมเดินหากระเป๋าสตางค์ทรงยาวมาตลอด 2 เดือน ตามห้างต่าง ๆ ก็ไม่เจอกับกระเป๋าสตางค์ที่ต้องการเลย เพราะมันไม่มี “เอกลักษณ์” หน้าตากระเป๋าแต่ละใบบนห้างมันก็เหมือน ๆ กันหมด แบบเดิม ๆ ดีไซน์เดิม ๆ แถมที่แย่ที่สุดคือแค่หยิบก็รู้แล้วว่าไม่เหมาะกับการใช้ประจำวันเลยสักนิด!

จนวันหนึ่งเมื่อผมเปิดเฟสบุคเจอกับโฆษณาของ Zettino ผมรู้สึกชอบครับ ดีไซน์เรียบหรูที่ไม่เหมือนใคร และน้อยแบรนด์มาก ๆ ที่จะเลือกหนังวัวแท้ชนิด Oiled Wax มาทำกระเป๋า จนผมเปิดดูเพจของ Zettino ทั้งวัน ไม่กี่วันต่อมาผมอดใจไม่ไหวจึงตรงไปที่ร้านด้วยตัวเองเลยครับ ไปดูว่ามันดีจริงตามภาพที่เห็นในโฆษณาหรือไม่ เมื่อไปถึงร้าน และหลังจากที่ได้จับและลองกระเป๋าใบจริงแล้วก็ไม่ผิดหวังครับ หนังชนิดนี้มันมีเสน่ห์จริง ๆ  จนผมซื้อมาในราคา 2,200 บาท (โดยมีผู้สนับสนุนหลักคือแฟนของกระผม) โดยความสามารถของกระเป๋าใบนี้จากประสบการณ์ของผมที่จะมาบอกเล่ากันมีดังนี้

การออกแบบที่มีเอกลักษณ์และวัสดุที่มีคุณภาพ
Zettino ออกแบบได้ไม่เหมือนแบรนด์ไหนจริงๆครับ ทรงกระเป๋าเรียบ ๆ แต่ดูหรูเพราะวัสดุหนังวัว Oil wax ที่แอบเงานิดๆ เหมาะสำหรับคนที่มีสไตล์เรียบหรู และภายในที่ใช้ผ้าลายสก็อตเย็บเป็นพื้น โดยส่วนตัวผมว่ามันมีเสน่ห์และมีความเป็นเอกลักษณ์มากๆ อีกทั้งวัสดุหนังวัวที่ใช้ จากประสบการณ์การใช้กระเป๋าหนังตั้งแต่เด็กผมการันตีได้เลยว่าหนังของแบรนด์ Zettino เป็นหนังที่ดีมีคุณภาพไม่แพ้แบรนด์ดังจากต่างประเทศเลยครับ

รูปด้านหน้าของกระเป๋า ใช้ด้ายเย็บเป็นลายบนหนัง

รูปด้านหลังของกระเป๋า

สามารถใส่บัตรได้มากถึง15ใบ!
น่าจะเป็นแบรนด์ที่ทำช่องใส่บัตรเยอะเป็นอันดับต้นๆ ตอบโจทย์ชีวิตคนสมัยนี้ที่ต้องมีบัตรสมาชิกสิทธิพิเศษต่างๆ เยอะแยะไปหมด ไม่ว่าจะเป็นบัตร MGen , Sf , The 1 card ,7-11 , บัตรประชาชน ,ใบขับขี่ , บัตรธนาคาร หรือฯลฯ พกเยอะขนาดนี้ Zettino เลยจัดให้สามารถใส่บัตรได้ถึง 15 ใบ! เอาไว้ใส่ให้จุใจไปเลย!!

ช่องใส่บัตรที่สามารถใส่ได้มากถึง 15 ใบ และลายสก็อตที่ได้กล่าวไปว่าเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของแบรนด์ Zettino

ช่องใส่บัตรที่ถูกคำนวณมาอย่างดี
ช่องใส่บัตรของกระเป๋า Zettino คำนวณมาดีมากจริง ๆ ครับ ช่องใส่บัตรพอดีมาก ๆ ใส่แล้วแน่นไม่หลุด ใส่เข้าก็ง่าย เอาออกก็ไม่ยาก เพียงแค่ใช้นิ้วโป้งดันบัตรก็ออกมาแล้วครับ กระเป๋าก็ไม่เป็นรอยและหนังไม่เสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องทางด้านซ้าย ออกแบบมาได้ให้ใส่บัตรได้พอดีสุด ๆ เลยครับ บัตรไม่เลยจากช่องใส่แล้วแน่นไม่มีหลุด จะหยิบใช้งานก็ง่ายสุดยอดจริง ๆ ครับ

ช่องใส่บัตรที่พอดีกับบัตรเป๊ะๆ ไม่ล้ำไม่เลยช่องของตัวเอง ขนาดของบัตรที่โผล่ออกมาก็พอให้ใช้นิ้วโป้งสไลด์ออกมาได้ง่ายๆ

ช่องใหญ่ 3 ช่องที่รับประกันเลยว่าซ่อนเงินแล้วเมียไม่เห็น!
สำหรับช่องใส่ธนบัตรของตัว Long wallet ใบนี้จะอยู่ถัดมาจากช่องใส่บัตรด้านขวาเป็นช่องที่เล็กกว่าอีก 2ช่องด้านหลัง แต่ถึงแม้จะบอกว่าเล็กแต่มันก็พอดีกับธนบัตร หยิบใช้ได้ง่ายไม่มีปัญหา
ส่วนช่องใหญ่อีก2ช่องทางด้านหลัง มันใหญ่มาก ๆ ครับสามารถใส่บัตรเพิ่มหรือแอบแบงค์พันได้เป็นอย่างดีและช่องมันค่อนข้างปิดถ้าหากไม่ล้วงหรือง้างช่องออกมาดูบางทีอาจจะข้ามธนบัตรที่ซ่อนไว้ไปเหมาะสำหรับพ่อบ้านที่ชอบแอบเงินเมียมากๆครับ (นี่รีวิวพลีชีพเลยนะ)

ช่องใหญ่ด้านล่างซึ่งเป็นช่องแอบซ่อนเงินได้ดีมากๆ ถ้าไม่สังเกตจะนึกว่าไม่มีอะไรใส่ไว้ในช่องเลยด้วยซ้ำ

ความบางระดับพระเจ้า! บัตรเยอะเงินเยอะแค่ไหนแต่กระเป๋าไม่เคยเสียทรง!!
เป็นเรื่องที่ตัวผมเองก็ยังสงสัยอยู่ทุกวันนี้ว่าเหตุใดใส่บัตรเยอะขนาดนี้แต่กระเป๋าไม่เคยเสียงทรง!? กระเป๋าของผมใบนี้ไม่เคยบวมจนน่าเกลียด และ Zettino ก็คงเล็งเห็นแล้วว่ากระเป๋าที่เขาออกแบบมานั้นผู้บริโภคต้องการ “ความบาง” เพราะความบางทำให้ดูเรียบหรูและดูเนี๊ยบกว่ากระเป๋าใบตุง ๆ เป็นไหน ๆ (เห็นด้วยไหมละ?) และกระเป๋าใบนี้ยิ่งใช้ยิ่งบางครับเพราะหนังจะอ่อนตัวขึ้นตามสภาพใช้งานซึ่งผมบอกได้เลยว่าความบางของมันระดับพระเจ้า!

รูปนี้เป็นกระเป๋าใบที่ผมใช้มาแล้วเกือบ 3 เดือนเมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ กระเป๋าจะบางมากขึ้นเนื่องจากตัวหนังนิ่มขึ้นอย่างที่เห็นตามภาพ

ความบางเมื่อเทียบกับฝากล้อง จะเห็นได้ว่าบางโคตร ๆ จริง ๆ !!

ทุกอย่างบนโลกใบนี้คงไม่มีอะไรที่ดีไปซะทุกอย่าง สำหรับข้อเสียเล็ก ๆ ของกระเป๋าสตางค์ใบนี้จากประสบการณ์ในการใช้งานที่ผมพบเจอก็คือ

กระเป๋าเป็นรอยง่ายมากเพียงเล็บสะกิดก็เป็นรอย
เนื่องจากวัสดุหนัง Oiled wax ชนิดนี้ทำให้ตัวหนังของกระเป๋าเป็นรอยได้ง่ายครับ อาจทำให้ใครหลายคนที่รักกระเป๋าของตัวเองต้องสะเทือนใจ แต่ว่ารอยที่เกิดขึ้นดังกล่าวเพียงเอานิ้วถูก็จะจางลงครับและหากใช้ ครีมทำความสะอาดก็จะยิ่งลบรอยเสียจนมองไม่เห็น(แถมยังทำให้กระเป๋าเงาขึ้นด้วย) โดยหาซื้อครีมนี้ได้จาก ร้านขายรองเท้าบนห้างยี่ห้อ Manwood ไปถึงแล้วถามหาครีมกระปุกสีฟ้า หรือครีมจากไขปลาวาฬซึ่งใช้สำหรับ หนัง Oiled wax ได้เลยครับ แต่เตือนนิดนึงว่าไม่ควรใช้บ่อยนะครับเพราะหนังมันจะนิ่มขึ้น และสีจะเข้มขึ้น (สังเกตได้จากสีของกระเป๋าผม ต่างจากตอนแรกที่ซื้อมาเล็กน้อย) สำหรับ กระเป๋าสีเข้มนั้นคงไม่มีปัญหา แต่สำหรับสีอ่อนสีอาจจะเพี้ยนได้นะครับ

สภาพด้านหน้าหลังจากใช้งานไปเกือบ 3 เดือน มีรอยขูดเล็กน้อยตามสภาพการใช้งาน ปกติเป็นคนระวังมาก รอยต่าง ๆ ที่เห็นจึงมักเกิดจากเล็บ ที่ไปขูดโดยไม่ตั้งใจ

สภาพด้านหลัง เห็นยาว ๆ นั่นก็เล็บเหมือนกัน แต่ดูแลและเช็ดด้วย Oil Wax รอยแผลก็ลดลง

ไม่มีที่เก็บเหรียญ
บางคนอาจจะรำคาญเนื่องจากไม่มีที่เก็บเหรียญหรือเคยใช้กระเป๋าที่มีแต่ที่เก็บเหรียญแต่สำหรับผมผมมองว่า Zettino ทำถูกต้องแล้วเพราะถ้าหากใส่ซิบเก็บเหรียญเข้าไปจะทำให้กระเป๋าดูหนาขึ้นและยิ่งใส่เหรียญเข้าไปกระเป๋าก็จะยิ่งดูบวม ไม่สวย แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลนะครับ

สรุป
Long Wallet ของ Zettino เป็นกระเป๋าสตางค์ที่คุ้มค่ามากๆครับ ทั้งวัสดุ,การออกแบบ,การเย็บกระเป๋า หรือแม้กระทั่งช่องใส่บัตร Zettino คำนวณเพื่อผู้ใช้งานมาหมดแล้วครับ ถึงแม้จะมีข้อเสียตามที่ได้กล่าวไป แต่สำหรับผมมันเป็นเรื่องเล็กน้อยมากครับ เมื่อใช้จริงก็ไม่ได้กระทบต่อชีวิตอะไรขนาดนั้น เป็นรอยแปปเดียวก็หาย ยิ่งใช้ครีมเช็ดยิ่งหายเลยครับ (แต่ไม่ควรเช็ดบ่อย) หลายคนอาจจะมองว่า เห้ย ราคาตั้ง 2,200 บาท นี่มันราคาเท่าแบรนด์ดังๆเลยนะ! ถ้าบอกอย่างนั้นละก็ผมแนะนำให้ลองไปดูตัวจริงกันที่ร้านเลยครับ แล้วจะรู้ว่าคุณภาพของกระเป๋าใบนี้เหมาะสมกับราคานี้แล้วจริง ๆ ทุกวันนี้เดินไปไหนก็มีแต่เพื่อนถามถึงกระเป๋าที่ใช้  และมีเพื่อนหลายคนที่คิดจะเปลี่ยนมาใช้กระเป๋าแบรนด์ Zettino เหมือนผม เพราะผมให้คำแนะนำเหมือนกับที่ผมได้รีวิวไปข้างต้นนี่แหละครับ

>>>ใครที่มองหากระเป๋าคาดอก รุ่น Belt Bag อยู่ สามารถอ่านรีวิวได้ที่นี่ครับ <<<

สำหรับใครที่สนใจอยากจะชมหรือติดตามเพจ Zettino เพิ่มเติม ก็สามารถติดตามได้ที่เพจ Facebook : Zettino หรือ เว็ปไซต์ http://www.zettino.com ซึ่งยังมีกระเป๋าอีกหลายแบบหลายทรงมากมายให้เลือกใช้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนครับ

และถ้าหากอยากไปสัมผัสของจริงเพื่อตัดสินใจซื้อเหมือนผมละก็ทาง Zettino มีสาขาอยู่ 3 ที่คือ

1. Siam Square ซอย 2
2. อาคารมหาทุนพลาซ่า 888 เพลินจิต แขวงลุมพินิ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร (ลง BTS เพลินจิต)
3. Crystal Veranda ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร

โดยก่อนที่จะไปแนะนำว่าให้ติดต่อไปทางเพจก่อนนะครับ เนื่องจากบางที่ของอาจจะหมด จะได้ไม่เสียเวลาเดินทางกันครับผม 🙂