ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2558 – 2559 เป็นช่วงที่ผมกำลังจบใหม่ ๆ และเริ่มรู้สึกอยากใส่แว่นกรองแสงเพื่อบรรเทาอาการปวดตาจากการเล่นเกมส์ (และทำงาน) อย่างบ้าระห่ำของผม
โดยปกติผมเป็นคนติดแบรนด์แว่นตายี่ห้อ Oakley อยู่แล้ว แว่นกรองแสงจึงอยากให้เป็น Oakley ด้วย จึงได้เปิดหา Frame ที่ถูกใจ จนไปถูกใจเจ้ารุ่น Evade ซึ่งแว่นรุ่นนี้ของ Oakley ในไทยมีขายน้อยมากครับ ประกอบกับราคาแพงมากขยับอีกนิดแทบจะซื้อ Icberlin ได้เลย
แต่!
เมื่อใจมันอยากได้ เราก็ต้องตามหามันมาจนได้นั่นแหละครับ!!
อันนี้เป็นข้อแนะนำเลยนะครับเวลาจะซื้อกรอบแว่นสุดแสนแพงในไทย ในราคาที่ถูกเกินครึ่ง! ให้คุณไปลองหาเว็บไซต์ขายของอย่างทางประเทศอังกฤษครับ
Oakley Evade ของผมซื้อแว่นจาก http://www.pretavoir.co.uk เป็นการซื้อของราคาครึ่งหมื่นครั้งแรกที่โคตรลุ้นว่ามันจะ Shipping มาให้จริง ๆ ไหม
หลังจากที่รอไปประมาณ เกือบเดือน ในที่สุดมันก็ได้มาถึงมือละจ้าาาา (อาจจะไม่มีรูปเนื่องจากเวลามันผ่านมานานเกิ๊นนน) กล่องครบอุปกรณ์ครับ
บรรยายนิดว่า Oakley Evade นี้เป็นแว่นแบบต้องเจาะเลนส์ (หรือแว่นไร้กรอบที่เราเรียกกัน) ตัวขาทำจากไทเทเนียมแท้ ไม่พัง ไม่เป็นรอย ทน …ๆ พร้อมกับตัวยางกันลื่นสีดำ สวมใส่แล้วสไตล์ดูโฉบเฉี่ยว หน้าตาไม่ฉลาด ใส่แล้วดูฉลาดขึ้นมา 150%
หลังจากนั้นผมก็ศึกษาต่อถึงตัดร้านแว่นที่ไหนดี จนไปเจอกับร้าน NiceOptic สยามซอย 1 ร้านเก่าแก่ ผมพกความรู้และกำตังค์ไปอย่างแน่น หวังว่าจะเอาเลนส์ Essilor ปรับแสง ใส่มัลติโค้ทนู่นนี่นั่น
พอไปถึง…
“โอ้ยยย เอาเลนส์เกาหลีก็พอแล้วลูก มันเปลือง!”
เหมือนโดนบอสตบหงายหลัง จากที่ตั้งงบเลนส์ไว้ หมื่นนึง กลายมาเป็นเหลือแค่ประมาณ 4,000 บาท แถมได้สิ่งที่ต้องการครบ! (มีตังค์ก็ซื้อไม่ได้ครับ เพราะเจ้าของร้านชอบแนะนำของถูกและดี) ซึ่งมันก็จริงอย่างที่ว่านั่นแหละ เลนส์มันไม่ต่างกันมากหรอก เว้นแต่ว่าจะมีปัญหาเรื่องสายตา (ซึ่งผมไม่มี) ตัดของแพงก็ใช่ว่าจะได้ของดีเสมอไป ตัดของถูกก็ใช่จำเป็นว่าจะได้ของกะโหลกกะลา
หลังจากที่ตัดแว่นเสร็จรอรับประมาณ 7 – 10 วัน ผมก็ได้แว่นกรองแสง ปรับสีเลนส์ได้ตามแสง UV อยู่กลางแจ้งเป็นแว่นดำ อยู่ในร่มสีจะชา ๆ หน่อย (แว่นกรองแสงจอคอมพ์ มักจะทำเป็นสีชา ไม่เหมาะกับคนที่ทำอาชีพประเภท กราฟฟิค ดีไซน์เนื่องจาก สีจะเพี้ยน) เวลาออกแแดดมันก็จะเท่ ๆ หน่อย กลายเป็นแว่นตากันแดด พอเข้าร่มก็เป็นเด็กเรียนเหมือนเดิม
ถามว่าใส่แว่นกรองแสงช่วยไหม?
มันก็ช่วยในระดับหนึ่งนะ เวลาทำงานคอมพ์และเล่นเกม ดีกว่าไม่ได้ใส่ แต่จะดีสุด ๆ เมื่อออกแดด ถ้าตัดเลนส์ปรับแสงด้วย ทำให้ไม่ปวดตา เซฟสายตาตลอดทั้งวัน
Oakley Evade ใส่แล้วเป็นยังไง?
ก็เป็นแว่นที่มีน้ำหนักในตัวเองระดับหนึ่ง เพราะด้วยยางกันลื่นที่มีความยาวด้วย แต่สำหรับผมแล้วผมชอบนะ เพราะเวลาวิ่ง หรือเคลื่อนไหวต่าง ๆ มันไม่หลุดเอาง่าย ๆ ใส่ทั้งวันก็ไม่เห็นว่าจะเป็นรอยช้ำเป็นรูปแป้นรองจมูกซักเท่าไหร่
แต่หลังจากใช้ไปเรื่อย ๆ ด้วยนิสัยที่จะถอดแว่นมือเดียว ทำให้ขาแว่นข้างนึงมันง้างออก และสกรูน็อตระหว่างขาแว่นกับเลนส์ หลุดออกบ่อย ๆ ทำให้ผมแทบจะต้องพกไขขวงอันเล็ก ๆ ไว้คอยขันน็อตตลอดเวลา
จนกระทั่งมันหลุดเกือบทุกวัน จึงได้กลับไปหาช่างที่ Nice Optic ให้เขาช่วยดูให้ ซึ่งทางร้านก็ดูเบื้องต้นและขันน็อตให้ฟรี (ซึ่งมันแน่นกว่าเราไปขันเองนั่นแหละ) แต่ปรากฎว่าใช้ไปได้อีก 1 อาทิตย์ คราวนี้หลุดหล่นหายไปทั้งน็อต!!
และเจ้าน๊อต Oakley นี่แหละครับตัวสำคัญ ที่เป็นปัญหาชวนปวดหัวมาก ๆ
ผมกลับไปหาร้าน Nice Optic อีกครั้ง แต่ไปแบบไม่มีน๊อต ช่างเอ่ยปากคำแรกถามผมว่า
“เอาน๊อตอะไหล่มาด้วยรึเปล่า?”
“ไม่ได้เอามาครับ น๊อตทั่วไปใส่ไม่ได้หรอครับ?”
“น๊อต Oakley แทบจะเป็นยี่ห้อเดียวที่น็อตไม่เหมือนชาวบ้านเขาครับ และทางร้านไม่มีน๊อตแบบนี้ขาย ต้องไปสั่งซื้อเฉพาะที่ Shop Oakley หรือไม่ก็เอาอะไหล่ที่เขาแถมมาให้ผม เดียวผมซ่อมให้”
ปัญหานี้ผมช็อคเอามาก ๆ ปกติใช้แต่แว่นกันแดดของ Oakley ที่ไม่ค่อยมีเรื่องปวดหัวนอกจากโค้ทเลนส์ที่ลอกไปตามเวลาของมัน
ผมถึงขั้นต้องกลับไปหาข้อมูลเพิ่ม เรื่องน็อตเจ้าปัญหาของ Oakley และพบว่ามันโคตรรรรเป็นปัญหา ทั้งคนไทยและเทศ ด้วยลักษณะของน็อตที่อวบกว่า และสั้นกว่าชาวบ้านเขา ทำให้มันเหลือพื้นที่เพียงนิดเดียวที่จะยึดติดระหว่างเลนส์กับขาแว่น (แว่นกันแดดไม่ค่อยเจอปัญหา แต่แว่นสายตาเจอปัญหากันบาน)
ทั้งนี้รุ่นใหม่ ๆ ได้มีการปรับขนาด Screw หรือน็อตบ้างแล้ว สำหรับแว่นสายตา ก็ยังไม่เป็นที่แน่ใจว่าคนอื่นที่ใช้แว่นไร้กรอบ (Rimless) จะยังพบปัญหาอยู่บ้างไหม แต่สำหรับแว่นรุ่นเก่า ๆ อย่าง Evade เป็นปัญหาที่มีมานานแล้ว และมันโคตรรรรเป็นปัญหา ทั้งคนไทยและเทศ ด้วยลักษณะของน็อตที่อวบกว่า และสั้นกว่าชาวบ้านเขา ทำให้มันเหลือพื้นที่เพียงนิดเดียวที่จะยึดติดระหว่างเลนส์กับขาแว่น (แว่นกันแดดไม่ค่อยเจอปัญหา แต่แว่นสายตาเจอปัญหากันบาน)
ให้เราหลับตาแล้วนึกถึงวันแรก ที่มีสาย Lightning Charge แบบ Iphone พร้อมกับอุทานว่า
“มึงช่วยทำให้มันชาร์จด้วยกันกับแอนดรอยด์ได้ไหม สาสสส”
อุตส่าห์ศึกษามาตั้งนานกว่าจะซื้อ พอเจอปัญหาที่มองข้ามถึงกับช็อค จึงได้ หันไปหาที่พึ่งสุดท้ายคือ Shop Oakley
ผมพาร่างของ เจ้า Evade ไปยัง Shop Paragon โดยหวังที่ว่า อาจเป็นเพราะผมขันมันบ่อย ทำให้เกลียวมันหวาน (คิดเข้าข้างตัวเองสุด ๆ) โดยหวังพึ่งให้ศูนย์ของ Oakley ฟื้นคืนชีพมันอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมเคยใช้บริการซ่อมกับทาง Oakley ถ้าในกรณีแว่น Oakley ที่ไม่ได้ซื้อกับทางร้าน ร้านจะคิดค่าดำเนินการประมาณ 500 บาท (ไม่รวมค่าอะไหล่)
ผมส่งมันกลับไปรักษาตัวอีกครั้ง และวันที่รับมันกลับบ้านผมดีใจเหมือนได้ของใหม่!
หลังจากนั้น 3 วัน…
ขาแว่นก็กลับมาหลุดเหมือนเดิม .,
#ใครซ่อมได้ช่วยทีโว้ยยยยยย
T ^ T