วันนี้เซอไพรส์มาก เพราะจ่าเณรและผองเพื่อน ได้ชักชวนผมไปกินร้านกาแฟเปิดใหม่ ซึ่งอยู่ในหลืบสามพราน ห่างจากตัวโรงเรียนนายร้อยตำรวจเพียง 6 นาที !

เปิดใหม่ขนาดนี้มีหรือจะพลาด ใกล้ ๆ ที่ทำงานด้วย ! เมื่อว่างเว้นจากภารกิจจึงรีบบึ่งกันไปตามที่นัดหมาย แต่อนิจจา ปรากฎว่าฝนตก !!!

แต่ถึงแม้ว่าฝนจะตก แต่เมื่อไปถึงร้านก็พร้อมใจกันเปียกฝนครับเพราะว่า วิวมันสวยมาก!!!

ร้านปลูกดอกหญ้าไปตลอดทาง และพื้นที่ค่อนข้างใหญ่มาก ๆ ถ้าฝนไม่ตก และมีแสงมากกว่านี้คือสวยแน่นอน

มุมนี้คือจุดชมวิวแม่น้ำท่าจีน เก๋มาก ตกแต่งลงตัว สามารถสั่งกาแฟและมานั่งทานได้ที่นี่เลย

หลังจากที่ถ่ายรูปตรงจุดชมวิว จนเริ่มเกรงใจเจ้าของร้านแล้วก็เลยขยับมาอีกหน่อย จะเจอระเบียงเก๋ ๆ ถ้าฝนไม่ตกสามารถขึ้นไปนั่งชิล ๆ กลางแดด (?) และสามารถถ่ายรูปในมุมเก๋ ๆ ได้

อีกจุดที่คนนิยมมาถ่ายกัน คือชิงช้าดอกไม้ สาว ๆ น่าจะชอบเป็นพิเศษในมุมนี้

กว่าจะเดินถึงตัวร้าน เล่นเอาแบตโทรศัพท์หมดไปเยอะมาก เพราะถ่ายรูปกันรัว ๆ ภายในส่วนอาคารรับออเดอร์ เป็นหลังคาสูง มีแอร์และพัดลม ให้พร้อม พนักงานบริการดีมาก

โต๊ะภายในร้านก็จะชิค ๆ หน่อย นี่ขนาดไม่ค่อยมีแสงและถ่ายจากกล้องมือถือทุกรูป มุมภาพที่ออกมาถือว่าค่อนข้างสวย ไม่ต้องถ่ายรูปเก่งมากก็ชิคได้ เพราะทางร้านจัดวางของตกแต่งไว้ดีอยู่แล้ว

เมนูและโปรโมชั่น

เมนูทางร้านจะออกไปแนวชาไข่มุก (ซะงั้น) ทีแรกผมนึกว่าจะออกแนวชาอังกฤษจิบชาผู้ดี Tea Break ยามบ่าย ปรากฎว่าเจอเมนูถึงกับล้มหัวคะมำเลยครับ ฮ่า ๆ ราคาต่อแก้วก็ถือว่าค่อนข้างสูง แต่โดยส่วนตัวแล้วถือว่าเป็นราคาเข้าชมสถานที่มากกว่า

ในส่วนของโปรโมชั่นถ้ามาหลายคนก็จะคุ้มหน่อย ถ้าหากกินเค้กด้วย

สั่งเสร็จก็จะได้ตัวสัญญานเรียก เมื่อออเดอร์เสร็จมาให้ ทำให้ถ้าหากเราอยากออกไปถ่ายรูปก็สามารถทำได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งรอออเดอร์ที่ตัวอาคารครับ

ลาเต้เย็นกับมุมโต๊ะธรรมดาของร้าน

ชานมพ่นไฟ ที่น่าจะเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน

ช็อคโกแลตพ่นไฟ แก้วนี้ผมสั่งเองเพราะไม่อยากซ้ำกับเพื่อน

เค้ก Hokkaido Milk ราคา 119 บาท

เค้กมะพร้าว

ยกไปกินริมแม่น้ำก็ได้มีต้นไม้ใหญ่คลุมหัว อากาศดีมาก แต่เสียดายฝนเทลงมาเสียก่อน เลยไม่สามารถเก็บวิวที่นั่งริมน้ำได้อีกที่

ช่วงรีวิวตรง ๆ

ร้านถึงแม้จะอยู่ในหลืบ แต่การขับรถมาได้ไม่ยากเลยครับ เข้าซอยข้างโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ตรงตามทางไปเรื่อย ๆ ขับตาม Google Maps ไปประมาณ 6 นาทีก็ถึง

ที่จอดรถค่อนข้างเยอะมาก ๆ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีที่จอด

โลเคชั่นร้านติดแม่น้ำท่าจีนและพื้นที่กว้างมาก ๆ ทางร้านตกแต่งให้มีมุมถ่ายรูปแทบทุกจุด

สถานที่เหมาะสำหรับการมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง หรือกระทั่งจัดงานแต่งเล็ก ๆ ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะมีพื้นที่ค่อนข้างเหลือเฟือ

สถานที่นั่งมีค่อนข้างเยอะ ไม่ต้องห่วงว่าไม่มี จริง ๆ แล้วจะมีที่นั่งริมน้ำ ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้วยอีกจุดหนึ่ง แต่ผมไม่สามารถถ่ายได้ทันเนื่องจากฝนเทลงมาเสียก่อน ตรงจุดนั้นสามารถนอนได้เลย เนื่องจากทางร้านมีหมอนให้ และเป็นที่นั่งตาข่ายเก๋ ๆ จะนอนถ่ายรูปก็ได้มุมไปอีกแบบ

ห้องน้ำก็ดีมาก ๆ สวยงามและสะอาด

แต่การตกแต่งที่นี่ส่วนตัวคือ งง มาก ๆ การตกแต่งนี่มันควรจะสไตล์อังกฤษ จิบชาเบา ๆ Tea Break ยามบ่าย แต่ปรากฎว่า ขับรถเข้ามาเจอป้ายกับรูป ชาไข่มุกอันเบ้อเริ่ม!

เท่านั้นยังไม่พอ ร้านออกแนวญี่ปุ่นด้วยชื่อร้านเป็นอักษรญี่ปุ่นเฉย

โอเคแหละพอเข้าใจได้ อาจจะ Minimal Style แบบ ญี่ปุ่น

แต่ว่า…

เปิดเพลงเกาหลี !!!!

โอ้ยยยย จะบ้าตาย~

แล้วเป็นเพลงจังหวะสนุก ๆ ด้วยนะ คือฟีลลิ่งมันขัดกันมากเลยอะ แล้วลำโพงมันมีอยู่ทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่ศาลาจุดชมวิว แล้วคือเสียงดังมากกกกก คุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง !

คือถ้าต้องการมานั่งชิลคุยกับเพื่อน หรือไม่ก็ต้องการอ่านหนังสือ ทำงานไรงี้ คือคุณจบอะ

ไม่ได้มีปัญหากับเพลงเกาหลีนะ แต่คือโหวกเหวกมาก เสียงมันดังรบกวนกิจกรรม ควรจะลดเสียงลงหน่อย หรือควรจะเปิดเพลงที่มันสบาย ๆ กว่านี้

ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม ราคาค่อนข้างแรง แต่ผมเข้าใจนะเพราะต้นทุนคือพื้นที่วิวถ่ายรูปไปแล้ว

แต่รสชาติมันสวนทางกับราคาไปนิดนึงในเมนูของกาแฟ และพวกชานมไข่มุก

กาแฟ ไม่ค่อยมีเอกลักษณ์เท่าไหร่ และสำหรับแก้วผมที่เป็นช็อคโกแลตพ่นไฟ คือ ขมจ๋าเลย ขมแล้วเลี่ยนด้วย จะเอามากินตัดกับเค้กก็ไม่ได้ แต่ในส่วนของชานมพ่นไฟ กลิ่นหอมโอเค ถ้าจะเพลย์เซฟ แนะนำชานมพ่นไฟครับ

ส่วนที่ชอบในเมนูเครื่องดื่มของที่นี่คือ เมนูโซดาครับ เพราะมันเปรี้ยวชัดเจน เปรี้ยวมะนาวแบบกลมกล่อม แก้เลี่ยน ชานมไข่มุกกับช็อคโกแลตพ่นไฟไปเลย อันนี้ชอบมาก และเพื่อนที่สั่งก็ชอบ

ส่วนที่ไม่ชอบเลยคือ ชาเขียวครับ ชาเขียวร้านนี้ “กลิ่น” และ “รสชาติ” จะออกแนว เหมือนเรากินชาเขียวร้อน แต่นี่มันคือชาเขียวเย็น ! มันคือชาเขียวเย็นที่เราจะติดภาพแบบ ต้องหวานหน่อย ๆ หอมชาเขียว แบบหวาน ๆ

แต่อันนี้ไม่ !

ดันหอมแบบชาเขียวร้อน ที่เวลาเรากินร้านอาหารจีนแล้วร้านเซิร์ฟ ชาร้อนแก้วนึง ประมาณนั้นเลย จ่าเณรที่กินชาเขียวเป็นประจำ ชวนไปร้านไหนก็สั่งแต่ชาเขียว ถึงกับออกปากถามผมเองว่า “พี่ไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม?”

ส่วนเค้ก Hokkaido Milk รูปร่างมันค่อนข้างหลอกตามาก เอาจริง ๆ คือ เนื้อรสชาติด้านบนคือบางมาก กินเข้าไปรับรู้รสแต่เฉพาะแป้งเค้ก รสชาติค่อนข้างจะสวนกับราคาและหน้าตาไปหน่อย เน้นเอามาถ่ายรูปอย่างเดียวพอ

ส่วนเค้กมะพร้าว เพื่อนบอกอร่อยดี แต่ผมไม่ได้ชิมเลยไม่ขอวิจารณ์

แต่ที่ไม่ชอบสุด ๆ ของการเสิร์ฟเค้กร้านนี้คือ ช้อนไม้แบบใช้แล้วทิ้ง ทางร้านอาจจะมองในแง่ของการดูแลรักษา แต่ช้อนไม้มีผลต่อรสชาติมากครับ เพราะว่า กลิ่นของไม้ค่อนข้างแรงมาก นึกถึงเวลาเราเลียไอติมแท่งแล้วเราได้กลิ่นไม้ มันก็จะประมาณนั้นเลยครับ ถ้าเป็นช้อนพลาสติกน่าจะโอเคกว่า ในแง่ของการดูแลรักษา ความสิ้นเปลือง และรสชาติ ครับ

ส่วนตัวขออนุญาตให้คะแนน

7/10

หักเรื่องรสชาติอาหาร , การตกแต่งที่ไม่ค่อยเข้ากันกับเสียงเพลง และเพลงที่ดังมากจนคุยไม่รู้เรื่อง

เป็นร้านที่มาครั้งเดียวถ่ายรูปให้เต็มคลัง ถ่ายให้จนเม็มเต็มกันไปข้าง แล้วก็พอ

นาน ๆ คงจะกลับมาซ้ำอีกที เพราะด้วยเรื่องรสชาติอาหารและเครื่องดื่ม ที่ยังไม่ค่อยตอบโจทย์ซักเท่าไหร่

พอกินแล้วกลับมาบ้าน ก็นึงถึงประโยคนึงในซีรี่ย์เรื่อง Itaewon Class

ซึ่งประธาน ชางแดฮี เคยพูดเอาไว้ประมาณว่า

ร้านอาหาร สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือรสชาติของอาหาร และมาตรฐานของร้าน

หากอาหารไม่อร่อย ลูกค้าก็จะไม่กลับมาอีก

(ต่อให้ตกแต่งร้านสวยแค่ไหนหรือมีลูกเล่นอะไรก็ตาม ตามที่ชางกึงวอน เสนอโปรเจคให้ ชางแดฮี)

ถึงกับต้องอัญเชิญประธาน ชางแดฮี เข้าร่วมรีวิว (ฮ่าๆ)

สุดท้ายนี้เนื่องจากมารีวิววันร้านเปิดวันแรก ทางร้านอาจจะมีการพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็ขอเอาใจช่วยนะครับ เพราะใจอยากมาซ้ำบ่อย ๆ เนื่องจากใกล้ที่ทำงานมาก ๆ วิวสวยขนาดนี้ คงหาได้ไม่กี่ที่ในนครปฐมแล้วละครับ 🙂